ฉลากสินค้าที่ดีย่อมทำให้สินค้าตอบโจทย์ต่อผู้บริโภค

ฉลากสินค้าที่ดีย่อมทำให้สินค้าตอบโจทย์ต่อผู้บริโภค

ฉลากสินค้าที่ดีย่อมทำให้สินค้าตอบโจทย์ต่อผู้บริโภค

ฉลากสินค้าที่ดีย่อมทำให้สินค้าตอบโจทย์ต่อผู้บริโภค
รูปภาพจาก : Pinterest

หากคุณกำลังที่จะสนใจทำสติ๊กเกอร์ติดฉลากสินค้า

การไดคัทขอบของโลโก้ หรือ แบบฉลากสินค้า ผมเชื่อว่าหลายๆ คนก็กำลังสนใจกันอยู่ ซึ่ง มันก็จะไปเป็นแนวทางในการออกแบบหรือจัดทำโลโก้ได้เป็นอย่างดี โดยการออกแบบฉลากสินค้า การไดคัทผมคิดว่ามันจะเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างมากเลย มันจะเป็นการทำให้โลโก้ของเราสามารถที่จะสร้างความโดดเด่นต่างๆ ได้เป็นอย่างดี การเป็นนักออกแบบมืออาชีพก็จะต้องทำในจุดนี้ออกมาให้มีความสมบูรณ์มากที่สุดด้วย เพื่อที่จะได้เป็นการพัฒนารูปแบบของบรรจุภัณฑ์ชนิดต่างๆ ให้สามารถออกมาตรงกับความต้องการได้

ใครที่อยากจะออกแบบโลโก้ โรงพิมพ์ ก็ได้ให้บริการ

การไดคัท

หลายๆ คนก็อาจจะไม่ค่อยเข้าใจกันว่ามันคืออะไร การไดคัทมันก็คือการตัดขอบกระดาษแต่ไม่เหมือนกับการเจียน เพราะในความเป็นจริงแล้วการเจียนมันก็จะเป็นการตัดเส้นตรง ส่วนการไดคัทที่เรารู้จักกันดีเป็นการตัดขอบตามรูปทรงต่างๆ ที่เราต้องการ ไม่ว่าจะมีรูปแบบอย่างไรก็ตาม ค่าใช้จ่ายในการจัดทำก็ค่อนข้างจะมีราคาที่แพงเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะในการออกแบบฉลากสินค้า การไดคัท ก็เป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างมากเลย เพราะเราก็จะต้องไดคัทส่วนที่ไม่จำเป็นออก เพื่อที่จะได้ชิ้นงานออกมาดีและตรงกับความต้องการได้มากที่สุด สำหรับการพิมพ์ฉลากสินค้า งานไดคัท ก็จะเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างมากเลย เพราะเราก็จะต้องทำให้ชิ้นงานออกมาดีมากที่สุด

รูปแบบของการไดคัทแบ่งออกได้เป็นดังต่อไปนี้

  • การไดคัทสีเหลี่ยม

โดยจะเป็นการใช้บล็อคใส่มีดสี่เหลี่ยมปั๊มลงไป เรียกได้ว่าไดคัทสี่เหลี่ยม ถือเป็นวิธีการไดคัทที่ง่ายเป็นอย่างมาก

  • การไดคัทสี่เหลี่ยมมุมบน

โดยจะเป็นการใช้บล็อคใส่มีดสี่เหลี่ยมมุมบนปั้มลงไป เรียกว่าการไดคัดตามแบบ

  • การไดคัดตามลายต่างๆ

โดยจะเป็นการไดคัทลายตามที่เราออกแบบ โดยจะมีลักษณะเฉพาะที่ไม่เหมือนกับสองวิธีดังกล่าวไม่ว่าจะเป็น สามเหลี่ยม วงรี วงกลม ตามรูปแบบที่เราต้องการ ซึ่งวิธีการไดคัทลักษณะแบบนี้ก็จะเป็นการไดคัทตามรูปแบบ

  • การปั้มไดคัท 50%

โดยจะเป็นการใช้กับงานสติ๊กเกอร์ต่างๆ โดยการปั้มขนาดเฉพาะเนื้อสติ๊กเกอร์ ก็จะมีลักษณะคล้ายๆ กับแผ่นแสมตป์ที่เราเห็นกันทั่วไปละครับว่ามันจะสามารถที่จะลอกได้ โดยจะมีกระดาษแผ่นหลังรองอยู่ ถ้าหากใครคิดไม่ออกก็ให้นึกถึงแสตมป์น่าจะเข้าใจวิธีการไดคัทแบบนี้มากที่สุด

  • การปั้มไดคัท 100%

วิธีการไดคัทแบบนี้เป็นการไดคัทแบบเป็นชิ้นๆ โดยทั่วไปแล้วก็จะพบได้งานสติ๊กเกอร์ขนาดใหญ่ งานสติ๊กเกอร์สำหรับแจกเป็นดวงๆ ที่เราพบได้ตามบูทหรือการจัดโปรโมชั่นต่างๆ และที่สำคัญสติ๊กเกอร์แบบนี้ก็ได้รับความนิยมกันเป็นอย่างมากด้วย เพราะมันมีความสะดวกสบายมากที่สุด โดยที่เราไม่ต้องมานั่งลอกให้เสียเวลา

การออกแบบสติ๊กเกอร์ หรือ ฉลากสินค้า

เราก็ควรที่จะต้องมีการออกแบบและเลือกรูปแบบของเทคโนโลยีการพิมพ์ให้มั่นใจเสียก่อน และที่สำคัญเราก็จะต้องรู้ด้วยว่าสติ๊กเกอร์ที่เราต้องการหรือฉลากสินค้าของเราจะต้องการไดคัทแบบไหน เพราะแต่ละรูปแบบที่เราได้นำเสนอก็จะมีวิธีการที่แตกต่างกันออกไป แต่ผมคิดว่า น่าจะเป็นการปั้มไดคัทแบบ 50% จะดีกว่าคิดว่ามันน่าจะตอบโจทย์กับการใช้งานได้มากที่สุด และที่สำคัญมันทำให้เราสะดวกสบายในการติดอีกด้วย จึงเป็นวิธีการไดคัทที่ผู้ต้องการนำไปติดกล่องบรรจุภัณฑ์น่าจะตอบโจทย์ได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ไม่ใช่แค่เพียงทำสติ๊กเกอร์เท่านั้นหรือฉลากสินค้า เพราะมันยังสามารถที่จะนำไปประยุกต์ใช้กับงานออกแบบอื่นๆ ได้อีกเยอะมากด้วย

โปรแกรมช่วยไดคัทสติ๊กเกอร์หรือฉลากสินค้า

ไม่ได้แตกต่างจากงานออกแบบชนิดอื่นสักเท่าไร โดยทั่วไปก็จะใช้โปรแกรมพื้นฐานในการสร้างชิ้นงานกันอยู่แล้ว แต่เราก็จะต้องเลือกใช้ให้ถูกต้องและถูกวิธีด้วยเพื่อที่จะทำให้งานออกแบบของเราสามารถที่จะออกมามีความสมบูรณ์แบบได้มากที่สุด แต่โปรแกรมที่ดีที่สุดก็คงจะหนีไม่พ้น AI เพราะมันสามารถที่จะใช้ควบคู่กับซอฟแวร์ของเครื่องไดคัทสติ๊กเกอร์ได้เป็นอย่างดีและมีประสิทธิภาพด้วย ไม่ว่าจะเป็นสติ๊กเกอร์หรือฉลากสินค้าขนาดไหน แบบไหนก็ตามนั้น รับรองเลยว่าจะทำให้งานออกมามีความสมบูรณ์แบบทุกชิ้นอย่างแน่นอน แต่บางคนบอกว่า PS ก็สามารถที่จะใช้ได้เหมือนกัน แต่สุดท้ายแล้วในส่วนขั้นตอนสุดท้ายนั้นก็จะต้องใช้ AI ในการส่งไฟล์งานเพื่อไดคัทอยู่ดี

สรุป

การไดคัทชิ้นงานออกมาดีมีความสมบูรณ์แบบมากที่สุดก็จะทำให้ชิ้นงานของเราสวยงามและตอบโจทย์ได้เป็นอย่างดี การออกแบบ การจัดพิมพ์ หรือแม้กระทั้งการไดคัท ก็มีให้เลือกใช้บริการแทบจะทั้งหมดด้วยกัน เอาเป็นว่าการที่มีฉลากสินค้าที่ดีนั้นก็ย่อมจะเป็นสิ่งที่ตอบโจทย์สำหรับผู้บริโภคได้เป็นอย่างมากด้วย